เคล็ด (ไม่) ลับ พื้นไม้แบบไหนเหมาะกับคอนโด อยู่สบาย ดูดีไม่มีเอาต์

ทำไมพื้นไม้ ถึงเหมาะกับคอนโดมากกว่าพื้นแบบอื่น

สำหรับคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด การเลือกวัสดุปูพื้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่แล้ว ยังเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ซึ่งพื้นไม้ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ด้วยข้อดีต่าง ๆ มาเหตุผลกันว่าทำไม พื้นไม้ถึงเหมาะกับคอนโด

1. เพิ่มความอบอุ่นและมิติให้พื้นที่เล็กดูมีสไตล์

โทนสีของพื้นไม้ช่วยให้ห้องคอนโดดูกว้าง โปร่ง และสบายตา ขณะเดียวกันผิวสัมผัสของไม้ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและอบอุ่น ให้บรรยากาศดูมีสไตล์มากกว่าการใช้กระเบื้องทั่วไปอีกด้วย

2. ติดตั้งง่าย ปูทับพื้นเดิมได้

พื้นไม้ SPC และ Super Floor จาก LOGLANE ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถติดตั้งปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้ทันที โดยไม่ต้องรื้อถอนหรือเจาะพื้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคอนโดที่มีกฎห้ามเจาะโครงสร้าง หรือผู้ที่ต้องการรีโนเวตห้องให้สวยขึ้นอย่างง่ายดายและรวดเร็ว

3. น้ำหนักเบาและกันชื้น เหมาะกับสภาพอากาศไทย

พื้นไม้ SPC จาก LOGLANE ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยโดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติ กันน้ำ 100% จึงไม่บวมหรือพองง่าย หมดกังวลเรื่องปลวกและปัญหาความชื้นในคอนโด ให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจทั้งในแง่ความทนทานและความสวยงามที่ยาวนาน

บอกลาปัญหาพื้นบวม อ่านเพิ่มเติม: หมดกังวล! เคล็ดลับแก้ปัญหาพื้นบวมและปลวกกินไม้

เลือกพื้นไม้แบบไหนดี ให้เข้ากับการใช้ชีวิตในคอนโด

พื้นไม้ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในคอนโดควรติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้การเจาะ ซึ่งอาจรบกวนผู้อื่นและผิดกฎของโครงการ ที่สำคัญควรทำจากวัสดุคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน กันน้ำได้ 100% ไม่บวม ไม่ผุ กันปลวก และดูแลรักษาง่าย ขณะเดียวกันก็ต้องให้สัมผัสที่ดี ลวดลายสวย เช่นแบบเดียวกับไม้แท้ โดยตัวอย่างรูปแบบพื้นไม้ยอดนิยมสำหรับใช้ในคอนโด มีดังนี้

1. พื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite)

พื้นไม้ SPC เหมาะกับคอนโดขนาดเล็ก-กลาง ที่ต้องการความแข็งแรง ใช้งานได้นาน และกันน้ำ 100%

• คุณสมบัติ: กันน้ำ 100%, กันปลวก, ติดตั้งด้วยระบบคลิกล็อก
• เฉดสียอดนิยม:

• Oak Light / White Oak เหมาะกับสไตล์มินิมอล เรียบง่าย อบอุ่น
• Ash Grey / Grey Oak เหมาะกับคอนโดโมเดิร์นที่มีกลิ่นอายความเท่
• Natural Oak เหมาะกับคอนโดโทนอบอุ่น เน้นสีแบบธรรมชาติ

2. พื้นไม้ Super Floor (กันน้ำพิเศษ)

พื้นไม้ Super Floor โดดเด่นด้วยคุณสมบัติกันน้ำพิเศษ ตอบโจทย์คนที่มีสัตว์เลี้ยง หรือกังวลเรื่องความชื้น

• คุณสมบัติ: ทนต่อรอยขีดข่วนสูง เหมาะกับห้องนั่งเล่นและห้องครัว
• เฉดสียอดนิยม:

• Maple Cream / Honey Brown ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย
• Golden Oak / Walnut Brown เพิ่มความเรียบหรู ดูมีเสน่ห์

3. พื้นไม้ Engineering Wood (ไม้จริงผิวหน้า)

พื้นไม้ Engineering Wood เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคอนโดหรูที่ต้องการสัมผัสของไม้แท้สุดพรีเมี่ยม

• คุณสมบัติ: มีผิวสัมผัสของไม้จริงและลวดลายธรรมชาติ
• เฉดสียอดนิยม:

• Dark Walnut / Espresso ให้ความรู้สึกเหนือระดับ เรียบหรู และสงบ
• Natural Oak / Sandy Oak เหมาะกับการตกแต่งสไตล์ Nordic / Scandinavian

อ่านบทความเพิ่มเติม: แชร์เคล็ดลับเลือกพื้นไม้ให้เข้ากับห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว

เคล็ดลับเลือกสีพื้นไม้ ให้คอนโดดูกว้างและไม่ตกเทรนด์

การเลือกสีพื้นไม้คอนโดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญมาก เพราะสีสามารถมีอิทธิพลต่อมุมมองและความรู้สึกของผู้ที่อยู่อาศัยได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งวิธีที่ใช้สีมาเพิ่มมิติให้ห้องดูกว้างขึ้น แถมมีสไตล์ สามารถทำได้โดยดึงจุดเด่นของโทนสีมาใช้ ดังนี้

1. ห้องเล็กเลือกโทนสีอ่อนให้ดูกว้างขึ้น

พื้นไม้สีอ่อน เช่น Light Oak, Maple Cream หรือ White Oak ช่วยให้ภาพรวมของห้องดูกว้าง โปร่ง และสบายตายิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา สีสว่างจะยิ่งสะท้อนแสงได้ดี ทำให้บรรยากาศในห้องสดใสและผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มมิติและความน่าอยู่ให้กับพื้นที่เล็ก ๆ ได้อย่างลงตัว

2. ห้องใหญ่หรือเพดานสูง ใช้โทนเข้มเพิ่มมิติ

การเลือกใช้พื้นไม้สีเข้ม เช่น Walnut Brown, Dark Oak หรือ Ebony Black ช่วยสร้างบรรยากาศที่หรูหรา สง่างาม และเพิ่มมิติให้ห้องได้ทันที อีกทั้งช่วยขับให้เฟอร์นิเจอร์และผนังสีอ่อนอย่างสีขาวหรือเทาอ่อนดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ทำให้คอนโดสะท้อนความคลาสสิกและทันสมัยไปพร้อมกัน

3. อยากได้สไตล์อบอุ่นแต่ไม่จำเจ ใช้โทนกลาง (Neutral Tone)

การใช้พื้นไม้สีโทนกลาง เช่น Honey Brown หรือ Natural Oak ช่วยบาลานซ์ระหว่างความหรูหราและอบอุ่นอย่างลงตัว ด้วยเสน่ห์ของโทนสีที่ไม่เข้มจนทึบ และไม่อ่อนจนเรียบเกินไป ทำให้เข้าได้ทั้งกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นและคลาสสิก

ลายพื้นไม้ยอดนิยมสำหรับคอนโด

ลายพื้นไม้ที่ได้รับความนิยม เป็นลายที่มีเอกลักษณ์และเข้าได้กับทุกสไตล์การตกแต่ง ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ดังนี้

ลายตรง (Straight Pattern)

ลายตรงเป็นดีไซน์พื้นไม้ที่เรียบง่าย ดูสะอาดตา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับห้องคอนโดขนาดเล็กหรือผู้ที่ชื่นชอบสไตล์มินิมอล เพราะช่วยให้บรรยากาศภายในห้องดูกว้าง โปร่ง และเป็นระเบียบ โดยยังคงความสวยงามแบบคลาสสิกที่เข้าได้กับทุกการตกแต่ง

ลายก้างปลา (Herringbone)

พื้นไม้ลายก้างปลาเป็นดีไซน์ที่ช่วยเพิ่มมิติและลูกเล่นให้ห้องดูกว้างและหรูหรามากขึ้น เหมาะสำหรับโซนนั่งเล่นหรือห้องนอน ที่ต้องการความโดดเด่นและบรรยากาศที่มีสไตล์ โดยเฉพาะรุ่น SPC Herringbone จาก LOGLANE ที่มีให้เลือกหลายเฉดสี อาทิ Natural Oak, Walnut Brown และ Grey Oak ซึ่งสามารถปรับโทนห้องให้ทั้งอบอุ่น คลาสสิก หรือโมเดิร์นอย่างลงตัว

ลาย Chevron (ชิ้นปลายเฉียง)

ลาย Chevron เป็นลวดลายที่เฉียงต่อกันเป็นรูปตัว V แบบต่อเนื่อง สื่อถึงความโมเดิร์น หรูหรา และมีทิศทางที่ชัดเจน ช่วยให้ห้องดูมีมิติและพลังของการเคลื่อนไหว เหมาะอย่างยิ่งกับคอนโดสไตล์ Modern Classic ที่ต้องการผสานความร่วมสมัยเข้ากับความสง่างาม

พื้นไม้แต่ละแบบเหมาะกับโซนไหนในคอนโด

เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกพื้นไม้ที่เข้ากับห้องต่าง ๆ ในคอนโดได้อย่างลงตัว LOGLANE ได้สรุปมาให้ ดังตารางด้านล่างนี้

สรุป: พื้นไม้ที่ใช่ ทำให้คอนโดของคุณดูดีไม่มีเอาต์

การเลือกพื้นไม้ให้เข้ากับคอนโดไม่ใช่เพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาให้ตรงกับขนาดห้อง ฟังก์ชันการใช้งาน และสไตล์การตกแต่งอีกด้วย เพราะโทนสีและลวดลายไม้มีอิทธิพลอย่างมากต่อบรรยากาศโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ห้องดูกว้างขึ้น อบอุ่นขึ้น หรือหรูหรามากขึ้น

แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกพื้นไม้แบบไหนดี LOGLANE ยินดีให้บริการแบบครบวงจร เพราะเราคือตัวจริงเรื่องพื้นไม้ ที่มาพร้อมตัวเลือกหลากหลายทั้ง SPC, Super Floor และ Engineering Wood ซึ่งมีลวดลายและเฉดสีจำนวนมาก รองรับได้ทุกสไตล์การแต่งห้อง การันตีความประทับใจจากลูกค้า ทั้งความพรีเมี่ยมของวัสดุ ดีไซน์สวย และงานติดตั้งแบบมืออาชีพ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• Line: @loglanefloor
• Facebook: Loglane
• Tel. 085-502-3698

LOGLANE ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพื้นไม้สำหรับคอนโด

หากลูกค้าท่านใดมีความสงสัยเกี่ยวกับพื้นไม้สำหรับคอนโด เรารวบรวมทุกคำตอบมาให้แล้วที่นี่